จากกรณีภัยพิบัติน้ำท่วมทั้งที่ภาคกลางตอนบนและตอนล่าง และล่าสุดที่ จ.สงขลาและอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ ทำให้ ครม. มีมติอนุมัติงบประมาณออกมาเป็นระลอกจาก ‘งบกลาง’ Rocket Media Lab ชวนสำรวจว่าในแต่ละปี เราใช้งบกลางในการชดเชยเยียวยาน้ำท่วมไปเท่าไหร่บ้าง
.

ในแต่ละปี ประเทศไทยใช้บประมาณในการจัดการน้ำสูงมาก โดยในปีงบประมาณ 2568 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) มีการตั้งงบแผนงานด้านทรัพยากรน้ำไว้ 131,796.2639 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณก้อนนี้รวมการจัดการน้ำทุกรูปแบบไม่เพียงแต่เฉพาะน้ำท่วมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงน้ำแล้งและการจัดหาน้ำอีกด้วย
.
ในขณะที่หากจะพิจารณาในส่วนของงบประมาณสำหรับน้ำท่วมนั้น Rocket Media Lab เคยทำข้มูลงบฯ น้ำท่วมในปีงบประมาณ 2566 จากการคัดกรองโครงการที่มีคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม เช่น น้ำท่วม ประตูระบายน้ำ ผักตบชวา ซ่อมแซม ทรบ. (ทางระบายน้ำ) ซ่อมแซมบานระบาย รับน้ำป่า อาคารระบายน้ำ แก้มลิง ซึ่งพบว่ามี 6,511 โครงการ เป็นงบประมาณ รวม 53,377,557,500 บาท (53,377.55 ล้านบาท)
.
อย่างไรก็ตามงบประมาณข้างต้นนั้น เป็นงบประมาณในการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ผ่านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เสียมากกว่า ในขณะเดียวกันก็มีงบประมาณอีกส่วนหนึ่งที่เรียกว่าเป็นงบประมาณชดเชยเยียวยาสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในแต่ละปี ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ก็สูงมากไม่แพ้กัน โดยเป็นงบประมามาจากงบกลางเป็นส่วนใหญ่
.
งบกลาง คือ งบประมาณสำรองที่รัฐบาลตั้งไว้เพื่อจัดสรรให้หน่วยงานต่างๆ เบิกจ่ายอย่างยืดหยุ่น สำหรับกรณีฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ภัยพิบัติ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หรือหนี้ผูกพันที่ต้องใช้จ่ายเร่งด่วน โดยไม่มีรายละเอียดแผนชัดเจนตอนแรก แต่จะอนุมัติกรอบวงเงิน และให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติการใช้จริง เพื่อให้การบริหารจัดการรวดเร็วและคล่องตัว โดยงบประมาณประจำปี 2569 ประเทศไทยตั้งงบกลางไว้ที่ 632,968,750,000 บาท
.
งบประมาณที่ใช้ในการชดเชยเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากงบกลางก้อนแรกก็คือ ค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยในงบประมาณประจำปี 2569 ตั้งไว้ที่ 4,000,000,000 บาท โดยแยกการจ่ายเป็น
.
- สำนักนายกรัฐมนตรี 100 ล้านบาท นายกรัฐมนตรีอนุมัติ
- กระทรวงกลาโหม 50 ล้านบาท ปลัดกระทรวงอนุมัติ
- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 10 ล้านบาท ปลัดกระทรวงอนุมัติ
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 50 ล้านบาท ปลัดกระทรวงอนุมัติ
- กระทรวงมหาดไทย 50 ล้านบาท ปลัดกระทรวงอนุมัติ
- กระทรวงสาธารณสุข 10 ล้านบาท ปลัดกระทรวงอนุมัติ
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 50 ล้านบาท อธิบดีกรมฯ อนุมัติ
- สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด แห่งละ 20 ล้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดอนุมัติ
- ในระดับอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดอนุมัติตามความจำเป็น ไม่เกิน 500,000 บาท
ทั้งนี้ ในปี 2568 คณะรัฐมนตรีมี มติเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ปรับเพิ่มวงเงินในบางหน่วยงาน ดังนี้
- กระทรวงกลาโหม เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มเป็นเป็น 100 ล้านบาท
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท
- สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพิ่มเป็น แห่งละ 50 ล้านบาท
- และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจจัดสรรเงินทดรองราชการของ ปภ.จังหวัด แก่อำเภอหรือกิ่งอำเภอ ตามความจำเป็นและเหมาะสม แต่ละแห่งต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท
.
นอกจากนี้ในงบกลางยังมีส่วนที่เรียกว่า ‘เงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น’ ซึ่งเป็นเงินที่เราเห็นในข่าวว่า ครม. มีมติ อนุมัติในการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมอยู่ในตอนนี้ โดยในปีงบประมาณ 2569 ตั้งงบไว้ที่ 98,000,000,000 บาท
.
ในแต่ละปีที่เกิดอุทกภัย ก็จะมีการอนุมัติงบประมาณจากก้อนนี้เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชานในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยที่ผ่านมาพบว่าปีงบประมาณ 2563 มีการใช้งบกลางเพื่อชดเชยเยียวยาจากปัญหาน้ำท่วมสูงที่สุดถึง 23,271.87 ล้านบาท โดยในปีนั้นเกิดน้ำท่วมหนักในช่วงปลายปีที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง ปัตตานี และตรัง
.
ในขณะที่ปีงบประมาณ 2566 และปีงบประมาณ 2567 ก็มีการอนุมติงบกลางเพื่อชดเชยเยียวยาจากปัญหาน้ำท่วมสูงไม่แพ้กัน โดยในปี 2566 เกิดน้ำท่วมหนักโดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี มีการอนุมัติงบชดเชยเยียวยาจากปัญหาน้ำท่วม 22,953.39 ล้านบาท และในปี 2567 ซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีการอนุมัติงบชดเชยเยียวยาจากปัญหาน้ำท่วม 22,967.75 ล้านบาท
.
และในปีนี้ ที่เกิดน้ำท่วมหนักเช่นเดียวกันทั้งในภาคกลางตอนบนและตอนล่าง รวมไปถึงภาคใต้ โดยเฉพาะที่ จ.สงขลา ก็มีการอนุมัติงบกลางจากงบประมาณประจำปี 2569 ไปแล้ว รวมกว่า 10,787++ ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
- 21 ต.ค.2568 เงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 6,169 ล้านบาท
- 25 พ.ย.2568 ครม.อนุมัติกรอบเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพิ่มเติม 7 จังหวัด ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ลพบุรี, และสงขลา 3,814 ล้านบาท
- 2 ธ.ค.2568 ครม. อนุมัติโครงการฟื้นฟูเมืองหลังวิกฤติน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่และบริเวณโดยรอบ ให้อบจ.สงขลา 530 ล้านบาท
- 2 ธ.ค.2568 เพื่อจ่ายเงินค่าปลงศพผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา 110 ล้านบาท
- 9 ธ.ค.2568 จ่ายค่าปลงศพผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้เพิ่ม 8 จังหวัด 164 ล้านบาท
.
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ในแต่ละปี นอกจากงบประมาณในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกว่า 5 หมื่นล้านบาทแล้ว ประเทศไทยยังต้องใช้งบประมาณชดเชยเยียวประชาชนจากปัญหาน้ำท่วมอีกหลายหมื่นล้าน ยังไม่รวมความช่วยเหลือต่างๆ จากหลายภาคส่วนทั้งภาคเอกชนและประชาชนที่มีในทุกๆ ครั้งที่เกิดภัยน้ำท่วมอีกด้วย
คำถามที่ตามมาก็คือ เคยมีการประเมินหรือไม่ว่า ไทยใช้งบประมาณเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่ หากเรายังใช้งบประมาณด้วยวิธีเดิมอยู่ต่อไป และยังต้องจ่ายเงินเยียวยาผลกระทบมากขึ้นเป็นวงจรเช่นนี้ โดยไม่ทบทวนผลลัพธ์ ก็อาจหมายความว่า แทนที่งบประมาณของประเทศจะถูกนำไปใช้พัฒนาด้านอื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันก็ต้องมาใช้เพื่อการนี้เป็นประจำทุกปี
ดูข้อมูลที่ https://rocketmedialab.co/database-centralbudget-flood-2025/



























