Connect with us

Hi, what are you looking for?

politics

เลือกตั้ง’69 : ตระกูล ‘บ้านใหญ่’ ย้ายไปอยู่พรรคไหนบ้าง

ภาพจากเฟซบุ๊กผู้สมัคร สส. ชุมพล จุลใส

  • ตระกูลการเมืองที่ถือว่าเป็น ‘บ้านใหญ่’ ในการเลือกตั้งปี 2569 มีจำนวน 215 ตระกูล ทั่วประเทศ 
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีตระกูลบ้านใหญ่สูงสุดที่ 71 ตระกูล รองลงมาคือภาคกลางและกรุงเทพฯ 60 ตระกูล ภาคใต้ 36 ตระกูล ภาคเหนือ 22 ตระกูล ภาคตะวันตก 15 ตระกูลและภาคตะวันออก 12 ตระกูล
  • หากพิจารณาจากสังกัดพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งปี 2569 จะพบว่า พรรคภูมิใจไทย มีตระกูลบ้านใหญ่มากที่สุด 86 ตระกูล โดยเป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรคจำนวน 41 ตระกูล และมาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 43 ตระกูล โดยย้ายมาจากพรรคเพื่อไทยมากที่สุด 13 ตระกูล
  • เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยมีตระกูลบ้านใหญ่มากที่สุด 76 ตระกูล ขณะที่พรรคภูมิใจไทยมีเพียง 48 ตระกูล แต่ในการเลือกตั้งปี 2569 พรรคเพื่อไทยเหลือเพียง 70 ตระกูล ซึ่งตระกูลบ้านใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2566 ย้ายไปพรรคภูมิใจไทยมากที่สุดในการเลือกตั้งปี 2569 ส่วนตระกูลพรรคการเมืองที่ย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยมากที่สุดมาจากพรรคพลังประชารัฐ 

การเมืองบ้านใหญ่ เป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงอยู่เสมอในช่วงเลือกตั้ง คำว่า ‘บ้านใหญ่’ ในทางการเมืองมีความหมายกินความไปถึงตระกูลนักการเมืองที่มีอิทธิพลสูงในท้องถิ่น มีเครือญาติความสัมพันธ์หรือเป็นที่รู้จักกว้างขวางในชุมชน และอาจมีอำนาจการเมืองในระดับท้องถิ่นด้วย โดยที่ผ่านมา ‘บ้านใหญ่’ มักจะถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ตัดสินชัยชนะการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ 

แต่ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อปี 2566 บ้านใหญ่ถูกตั้งคำถามใหม่ว่า ‘หมดอำนาจ’ แล้วหรือ เมื่อผลการเลือกตั้งในปี 2566 พรรคก้าวไกลที่เต็มไปด้วยผู้สมัครหน้าใหม่กลับสามารถเอาชนะผู้สมัครจากบ้านใหญ่ได้อย่างถล่มทลายในหลายพื้นที่ คำว่า ‘กระแสพรรค’ ถูกพูดถึงว่าเป็นสิ่งที่มาแทนที่ หรือสามารถกลบการเมืองบ้านใหญ่ได้อย่างน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อต้นปี 2568 ผลการเลือกตั้งกลับออกมาเป็นอีกแบบ บ้านใหญ่ในแต่ละพื้นที่กลับมาพลิกชนะได้อีกครั้ง 

เช่นเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2569 นี้ กระแส ‘บ้านใหญ่’ กลับมาอีกครั้ง ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่พรรคภูมิใจไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลและดึง ‘ดูด’ ตัวละครสำคัญๆ ทางการเมือง รวมถึงบ้านใหญ่หลากหลายพื้นที่ให้เข้ามาร่วมพรรคได้ คาดกันว่าการกลับมาของการเมืองบ้านใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้ชะตาว่า พรรคภูมิใจไทยจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ 

งานชิ้นนี้สำรวจความเคลื่อนไหวของ ‘บ้านใหญ่’ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร อ้างอิงจากสังกัดหรือความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งในปี 2566 เปรียบเทียบกับสังกัดและความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองในการเลือกตั้งปี 2569 นี้ ว่าตระกูลบ้านใหญ่ในแต่ละจังหวัดของประเทศไทยเคยสังกัดพรรคใด ย้ายมาสังกัดพรรคใดบ้าง และย้ายจากพรรคไหนไปไหนมากที่สุด ในพื้นที่ใดมากที่สุด 

เลือกตั้ง 2569 พรรคไหนมีตระกูลบ้านใหญ่มากที่สุด และพรรคไหนมีตระกูลบ้านใหญ่ย้ายเข้ามากที่สุด 

จากการรวบรวมข้อมูลตระกูลการเมืองที่ถือว่าเป็น ‘บ้านใหญ่’ ในแต่ละจังหวัด โดยอ้างอิงจากสังกัดหรือความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งปี 2566 เปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี 2569 พบว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีตระกูลบ้านใหญ่ที่ยังคงลงสนามเลือกตั้งทั้งในการเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขต แบบบัญชีรายชื่อ หรือเป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองทั้งแบบเป็นทางการ เช่น เป็นกรรมการบริหารพรรค หรือให้การสนับสนุนพรรคการเมืองหรือผู้ลงสมัครจากพรรคการเมือง มีจำนวน 215 ตระกูล ทั่วประเทศ (บางจังหวัดตระกูลเดียวกันแต่อยู่คนละพรรค) แบ่งเป็น

ภาคเหนือ 22 ตระกูล 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 71 ตระกูล 

ภาคกลาง และกรุงเทพฯ60ตระกูล

ภาคตะวันตก 15 ตระกูล

ภาคตะวันออก 12 ตระกูล

ภาคใต้ 36 ตระกูล

หากพิจารณาจากสังกัดพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งปี 2569 จะพบว่า 

พรรคภูมิใจไทย 

มีตระกูลบ้านใหญ่ 86 ตระกูล 

  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรคจำนวน 41 ตระกูล 
  • มาจากนักการเมืองท้องถิ่น 2 ตระกูล
  • มาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 43 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย 13 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 10 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ 7 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา 7 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ 3 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคไทยสร้างไทย 2 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคประชาชาติ 1 ตระกูล

พรรคเพื่อไทย 

มีตระกูลบ้านใหญ่ 70 ตระกูล 

  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรค 57 ตระกูล 
  • มาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 12 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ 3 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคชาติพัฒนากล้า 2 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 3 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา 1 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคไทยสร้างไทย 1 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ 1 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคภูมิใจไทย 1 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคเพื่อชาติ 1 ตระกูล

พรรคกล้าธรรม 

มีตระกูลบ้านใหญ่ 28 ตระกูล 

  • นักการเมืองท้องถิ่น 2 ตระกูล
  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 26 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ 12 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ 6 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคภูมิใจไทย 3 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย 1 ตระกูล

พรรคประชาธิปัตย์ 

มีตระกูลบ้านใหญ่ 17 ตระกูล 

  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรค 14 ตระกูล 
  • มาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 3 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ 2 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 1 ตระกูล

พรรคประชาชน 

มีตระกูลบ้านใหญ่ 10 ตระกูล 

  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรค 4 ตระกูล 
  • มาจากนักการเมืองท้องถิ่น 1 ตระกูล
  • มาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 5 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย 2 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ 1 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ 1 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคไทยสร้างไทย 1 ตระกูล

พรรคพลังประชารัฐ 

มีตระกูลบ้านใหญ่ 8 ตระกูล 

  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรค 1 ตระกูล 
  • มาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 7 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคภูมิใจไทย 3 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย 3 ตระกูล
    • ย้ายมาจากพรรคสร้างอนาคตไทย 1 ตระกูล

พรรครวมไทยสร้างชาติ

มีตระกูลบ้านใหญ่ 2 ตระกูล 

  • เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรค 1 ตระกูล 
  • มาจากตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา 1 ตระกูล แบ่งเป็น
    • ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ 1 ตระกูล

พรรคประชาชาติ

มีตระกูลบ้านใหญ่ 1 ตระกูล เป็นตระกูลบ้านใหญ่เดิมของพรรค

พรรคโอกาสใหม่

มีตระกูลบ้านใหญ่ 1 ตระกูล โดยเป็นตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา

ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย 1 ตระกูล

พรรครักชาติ

มีตระกูลบ้านใหญ่ 1 ตระกูล โดยเป็นตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา

ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ 1 ตระกูล

พรรคไทยรวมพลัง

มีตระกูลบ้านใหญ่ 1 ตระกูล โดยเป็นตระกูลบ้านใหญ่ที่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามา

ย้ายมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 1 ตระกูล

จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยมีตระกูลบ้านใหญ่มากที่สุด 76 ตระกูล ขณะที่พรรคภูมิใจไทยมีเพียง 48 ตระกูล แต่ในการเลือกตั้งปี 2569 นี้กลับพบว่า พรรคภูมิใจไทยมีตระกูลบ้านใหญ่มากที่สุดที่ 86 ตระกูล ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเพราะมีตระกูลบ้านใหญ่ย้ายจากพรรคอื่นเข้ามาอยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทยถึง 43 ตระกูล โดยย้ายมาจากพรรคเพื่อไทยมากที่สุด 

ในขณะที่พรรคเพื่อไทยจากเดิมที่เคยมีบ้านใหญ่ 76 ตระกูลในปี 2566 นั้น เหลือเพียง 69 ตระกูลในการเลือกตั้งครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงกระแสของพรรคภูมิใจไทยที่ได้เป็นผู้นำรัฐบาลก่อนหน้านี้ และคาดว่าอาจมีโอกาสได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย จึงทำให้ตระกูลบ้านใหญ่ย้ายเข้าสู่พรรคภูมิใจไทยมากที่สุด

ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่มีบ้านใหญ่ย้ายเข้ามาสังกัดจำนวนมากในการเลือกตั้งปี 2562 ก่อนจะค่อยๆ เสื่อมความนิยมจนแตกออกเป็นสองพรรคคือ พลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ จะเห็นว่าตระกูลบ้านใหญ่ย้ายออกจากทั้งสองพรรคเป็นจำนวนมาก อย่างพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2566 มีตระกูลบ้านใหญ่ 26 ตระกูล และลดลงเหลือเพียง 8 ตระกูลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ในการเลือกตั้งปี 2566 มีตระกูลบ้านใหญ่ 20 ตระกูล และเหลือเพียง 3 ตระกูลในการเลือกตั้งครั้งนี้

ภาคเหนือ : ฐานที่มั่นตระกูลการเมืองของพรรคเพื่อไทย

หากพิจารณาเป็นรายภาคจะพบว่า ในการเลือกตั้งปี 2569 ภาคเหนือมีตระกูลบ้านใหญ่จำนวน 22  ตระกูล แบ่งเป็น

พรรคเพื่อไทย 10 ตระกูล เช่น ตระกูลจงสุทธานามณี ในจังหวัดเชียงราย

พรรคภูมิใจไทย 5 ตระกูล เช่น ตระกูลศุภศิริ ในจังหวัดแพร่

พรรคประชาชน 3 ตระกูล เช่น ตระกูลบูรณุปกรณ์ ในจังหวัดเชียงใหม่

พรรคกล้าธรรม 4 ตระกูล เช่น ตระกูลพรหมเผ่า ในจังหวัดพะเยา

จากข้อมูลพบว่า ภาคเหนือมีตระกูลบ้านใหญ่จากพรรคเพื่อไทยมากที่สุด 10 ตระกูล แต่ถือเป็นจำนวนที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบการเลือกตั้งปี 2566 กับการเลือกตั้งปี 2569

โดยในการเลือกตั้งปี 2566 มี 12 ตระกูล พบว่าตระกูลบ้านใหญ่ในภาคเหนือย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยและรวมไทยสร้างชาติมากที่สุด พรรคละ 3 ตระกูล เช่น ตระกูลจันทรสุรินทร์ ย้ายจากเพื่อไทยไปภูมิใจไทย ในขณะที่ตระกูลบ้านใหญ่ย้ายเข้าไปพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 4 ตระกูล เช่น ตระกูลเชื้อเมืองพาน จังหวัดเชียงรายที่ย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปพรรคภูมิใจไทย 

ตะวันออกเฉียงเหนือ : การแข่งขันกันระหว่างพรรคสีแดงกับสีน้ำเงิน 

หากพิจารณาเป็นรายภาคจะพบว่า การเลือกตั้งปี 2569 ภาคอีสานมีตระกูลบ้านใหญ่จำนวน 71 ตระกูล แบ่งเป็น

พรรคเพื่อไทย 36 ตระกูล เช่น ตระกูลสินธุไพร ในจังหวัดร้อยเอ็ด

พรรคภูมิใจไทย 26 ตระกูล เช่น ตระกูลวันทนียกุล ในจังหวัดอำนาจเจริญ

พรรคกล้าธรรม 7 ตระกูล เช่น ตระกูลโล่ห์วีระ ในจังหวัดชัยภูมิ

พรรคพลังประชารัฐ 4 ตระกูล เช่น ตระกูลเฮงไพบูลย์ ในจังหวัดกาฬสินธุ์

พรรคประชาชน 2 ตระกูล เช่น ตระกูลรัตนเศรษฐ ในจังหวัดนครราชสีมา

จากข้อมูลพบว่า ภาคอีสานมีตระกูลบ้านใหญ่จากพรรคเพื่อไทยมากที่สุด 36 ตระกูล แต่ลดลงเล็กน้อยจากการเลือกตั้งปี 2566 ที่เคยมีจำนวน 38 ตระกูล 

นอกจากนี้ยังพบว่า ตระกูลบ้านใหญ่ในภาคอีสาน “ย้ายออก” จากพรรคเพื่อไทยมากที่สุด 8 ตระกูล เช่น ตระกูลโหตระไวศยะ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ย้ายจากเพื่อไทยไปพลังประชารัฐ ในขณะที่ตระกูลบ้านใหญ่ “ย้ายเข้า” ไปพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 11 ตระกูล เช่น ตระกูลรัตนเศรษฐ ในจังหวัดนครราชสีมา ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐไปพรรคภูมิใจไทย 

ภาคกลาง : การกวาดตระกูลบ้านใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย 

หากพิจารณาเป็นรายภาคจะพบว่า ในการเลือกตั้งปี 2569 ภาคกลางมีตระกูลบ้านใหญ่จำนวน 61 ตระกูล แบ่งเป็น

พรรคภูมิใจไทย 29 ตระกูล เช่น ปริศนานันทกุล ในจังหวัดอ่างทอง

พรรคเพื่อไทย 16 ตระกูล เช่น ตระกูลวรปัญญา ในจังหวัดลพบุรี

พรรคกล้าธรรม 7 ตระกูล เช่น ตระกูลพั้วช่วย ในจังหวัดเพชรบูรณ์

พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลแก้วทอง ในจังหวัดพิจิตร

พรรคพลังประชารัฐ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลเรี่ยวแรง ในจังหวัดนนทบุรี

พรรคประชาธิปัตย์ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลธาราภูมิ ในจังหวัดลพบุรี

พรรคประชาชน 2 ตระกูล เช่น ตระกูลมีนชัยนันท์ ในกรุงเทพมหานคร

พรรครักชาติ 1 ตระกูล เช่น ตระกูลธนาคมานุสรณ์ ในจังหวัดสิงห์บุรี

ภาคกลางมีตระกูลบ้านใหญ่จากพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 29 ตระกูล ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งปี 2566 ที่เคยมีจำนวน 16 ตระกูล นอกจากนี้ พบว่า ตระกูลบ้านใหญ่ในภาคกลาง “ย้ายออก” จากพรรคพลังประชารัฐมากที่สุดคือ 11 ตระกูล เช่น ตระกูลรัตนากร  จังหวัดกำแพงเพชร ที่ย้ายไปพรรคเพื่อไทย ในขณะที่ตระกูลบ้านใหญ่ “ย้ายเข้า” พรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 14 ตระกูล เช่น เช่น ตระกูลวงษ์ประยูร จังหวัดสระบุรี ที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐไปภูมิใจไทย

ตะวันออก : ตระกูลบ้านใหญ่ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง 

หากพิจารณาเป็นรายภาคจะพบว่า ในการเลือกตั้งปี 2569 ภาคตะวันออกมีตระกูลบ้านใหญ่จำนวน 12 ตระกูล แบ่งเป็น

พรรคภูมิใจไทย 4 ตระกูล เช่น ตระกูลคุณปลื้ม ในจังหวัดชลบุรี

พรรคเพื่อไทย 4 ตระกูล เช่น ตระกูลฉายแสง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา

พรรคประชาธิปัตย์ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลปิตุเตชะ ในจังหวัดระยอง

พรรคประชาชน 2 ตระกูล เช่น ตระกูลตันเจริญ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา

พรรคกล้าธรรม 2 ตระกูล เช่น ตระกูลศิริลัทธยากร ในจังหวัดฉะเชิงเทรา

พรรคพลังประชารัฐ 1 ตระกูล เช่น ตระกูลเทียนทอง ในจังหวัดสระแก้ว

จากข้อมูลจะพบว่า ภาคตะวันออกมีตระกูลบ้านใหญ่จากพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยเท่ากัน ที่ 4 ตระกูล แต่เมื่อเปรียบเทียบสังกัดพรรคการเมืองของบ้านใหญ่จากการเลือกตั้งปี 2566 กับการเลือกตั้งปี 2569 ของทั้งสองพรรค พบว่าพรรคเพื่อไทยในปี 2566 เคยมีบ้านใหญ่ถึง 5 ตระกูลด้วยกัน ในขณะที่ภูมิใจไทยมีเพียง 1 ตระกูล นอกจากนี้ยังพบว่าตระกูลบ้านใหญ่ในภาคตะวันออก “ย้ายออก” จากพรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติมากที่สุด พรรคละ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลเป้าเปี่ยมทรัพย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ย้ายจากพรรครวมไทยสร้างชาติไปพรรคกล้าธรรม ในขณะที่ตระกูลบ้านใหญ่ “ย้ายเข้า” พรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 3 ตระกูล เช่น ตระกูลชมกลิ่น จังหวัดชลบุรี ที่ย้ายจากพรรครวมไทยสร้างชาติไปภูมิใจไทย

ภาคตะวันตก : พื้นที่ใหม่ของพรรคภูมิใจไทย 

หากพิจารณาเป็นรายภาคจะพบว่า ในการเลือกตั้งปี 2569 ภาคตะวันตกมีตระกูลบ้านใหญ่จำนวน 14 ตระกูล แบ่งเป็น

พรรคภูมิใจไทย 7 ตระกูล เช่น ตระกูลทวีเกื้อกูลกิจ ในจังหวัดตาก

พรรคประชาธิปัตย์ 3 ตระกูล เช่น ตระกูลประจวบเหมาะ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พรรคเพื่อไทย 2 ตระกูล เช่น ตระกูลธนิกุล ในจังหวัดกาญจนบุรี

พรรคกล้าธรรม 1 ตระกูล เช่น ตระกูลนิติกาญจนา ในจังหวัดราชบุรี

พรรคพลังประชารัฐ 1 ตระกูล เช่น ตระกูลปลั่งศรีสกุล ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ภาคตะวันตกมีตระกูลบ้านใหญ่จากพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 7 ตระกูล และเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่เคยมีจำนวน 4 ตระกูล นอกจากนี้ยังพบว่า ตระกูลบ้านใหญ่ในภาคตะวันตก “ย้ายออก” จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ มากที่สุด พรรคละ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลนพอมรบดี จังหวัดราชบุรี ที่ย้ายจากพรรครวมไทยสร้างชาติไปพรรคภูมิใจไทย ในขณะที่ตระกูลบ้านใหญ่ย้ายเข้าไปพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 3 ตระกูล เช่น ตระกูลวิเชียรศิลป์ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปพรรคภูมิใจไทย 

ภาคใต้ : ฐานที่มั่นพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังโดนเจาะ 

หากพิจารณาเป็นรายภาคจะพบว่า ในการเลือกตั้งปี 2569 ภาคใต้มีตระกูลบ้านใหญ่จำนวน 36 ตระกูล แบ่งเป็น

พรรคภูมิใจไทย 15 ตระกูล เช่น ตระกูลโล่สถาพรพิพิธ ในจังหวัดตรัง

พรรคประชาธิปัตย์ 10 ตระกูล เช่น ตระกูลเดชเดโช ในจังหวัดนครศรีธรรมราช

พรรคกล้าธรรม 7 ตระกูล เช่น ตระกูลมะยูโซ๊ะ ในจังหวัดนราธิวาส

พรรคประชาชาติ 2 ตระกูล เช่น ตระกูลมะทา ในจังหวัดยะลา

พรรคเพื่อไทย 2 ตระกูล เช่น ตระกูลนุ้ยบุตร ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

พรรคประชาชน 1 ตระกูล เช่น ตระกูลภูเก้าล้วน ในจังหวัดกระบี่

พรรคไทยรวมพลัง 1 ตระกูล เช่น ตระกูลกาญจนะ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จากข้อมูลจะพบว่า ภาคใต้มีตระกูลบ้านใหญ่จากพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 15 ตระกูล ซึ่งเพิ่มจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่เคยมีจำนวน 7 ตระกูล นอกจากนี้ยังพบว่า ตระกูลบ้านใหญ่ในภาคใต้ “ย้ายออก” จาก ประชาธิปัตย์ มากที่สุด 8 ตระกูล เช่น ตระกูลขาวทอง จังหวัดสงขลา ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ไปพรรคกล้าธรรม ในขณะที่ตระกูลบ้านใหญ่ย้ายเข้าไปพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด 8 ตระกูล เช่น ตระกูลอัลยุฟรี จังหวัดปัตตานี ย้ายจากพรรคประชาชาติไปพรรคภูมิใจไทย

หมายเหตุ : ตระกูลบ้านใหญ่ หมายถึงตระกูลนักการเมืองที่มีอิทธิพลสูงในท้องถิ่น มีเครือญาติความสัมพันธ์หรือเป็นที่รู้จักกว้างขวางในชุมชน และอาจมีอำนาจการเมืองในระดับท้องถิ่นด้วย โดยในการจัดทำข้อมูลนี้ ใช้หลักเกณ์การสังกัดพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งปี 2566 และการเลือกตั้งปี 2569 ดังนั้น ในกรณีของพรรคกล้าธรรมเกือบทั้งหมด จึงเป็นการย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ

ที่มา : ข้อมูล ‘ตระกูลบ้านใหญ่’ ที่สังกัดหรือมีความสัมพันธ์กับพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งปี 2566 เปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี 2569 รวบรวมโดย Rocket Media Lab ณ วันที่ 21 ธ.ค. 2568

ดูข้อมูลที่ https://rocketmedialab.co/database-election-69-2/

คุณอาจสนใจ